บริษัทจัดหางาน ไทนิชิ ยูโก จำกัด
ใบอนุญาตเลขที่ ต. 1128/2552

วิภาพร ปะหยี

อยากมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อยากให้พ่อแม่สบาย ไม่ต้องทำงานหนัก

สวัสดีค่ะ ดิฉัน นางสาววิภาพร ปะหยี จบจาก วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่ อดีตเหรัญญิกภาค ภาคเหนือ และเลขนุการ อกท. หน่วยเชียงใหม่

หนูได้รับโอกาสจาก รศ.ดร.สมชาย ชคตระการ ได้มาฝึกงานด้านเทคนิคเกษตรที่ประเทศญี่ปุ่น โครงการ 3 ปี

การตัดสินใจและความตั้งใจที่จะมาญี่ปุ่นก็อยากมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อยากให้พ่อแม่สบาย ไม่ต้องทำงานหนัก และอยากมีฟาร์มเกษตรครบวงจรเป็นของตัวเอง ตอนนี้หนูอยู่ญี่ปุ่นและฝึกงานมาได้ 10 เดือนแล้ว การทำงาน พี่ที่ทำงาน พ่อแม่ ทุกคนใจดี ถือว่าหนูได้มาอยู่ในฟาร์มที่ดีมาก พ่อแม่ญี่ปุ่นใจดี ดูแล ค่อยเป็นห่วงและเอาใจใส่ลูกๆทุกคนดีมาก ดูแลดีเหมือนเป็นลูกของเขาเอง

ฟาร์มบ้านหนูมีทั้งหมด 6 คนคะ ผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 2 คน ความคิดแรกๆตอนเรียนภาษาอยู่ คิดว่าพอเข้าฟาร์มไปต้องได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสารในการทำงานเยอะแน่ๆเลย 555+ ที่ได้คะ พอมาอยู่จริงๆ จากที่เป็นคนเหนือ กลายเป็นคนอีสานแล้วค่ะ ได้แต่ภาษาอีสานจนบางครั้งมีคนถามหนูว่า เป็นคนศรีสะเกษ หรอ (แต่ก็ไม่ได้ลืมภาษาญี่ปุ่นเด้ 😆) ที่บ้านหนูจะปลูกพืชอยู่ 3 ชนิด คือ กุ้ยช่าย มะเขือเทศ และ ข้าว แต่ส่วนมากจะทำกุ้ยช่ายเป็นใหญ่ค่ะ

ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีการพัฒนาภาคการเกษตรสูง มีเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัย มีระบบการบริหารจัดการการใช้น้ำในทางเกษตรที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถนำไปเป็นต้นแบบในการพัฒนาการเกษตรของประเทศไทยได้ จากการฝึกงานตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ประเทศญี่ปุ่นมีการปลูกพืชในโรงเรือนเป็นจำนวนมากเนื่องากสภาพภูมิอากาศที่ไม่อำนวยต่อการเพาะปลูกพืช การเพาะปลูกพืชในโรงเรือนจึงมีความนิยมมากกว่าเพราะจะช่วยลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติแล้วยังสามารถผลิตพืชได้ตลอดทั้งปี พืชที่นิยมปลูกในโรงเรือนส่วนใหญ่เป็นพืชที่คนญี่ปุ่นมีความนิยมในการบริโภคสูง ได้แก่ มะเขือเทศ ผักโขม สตรอเบอรี่ เป็นต้น

โรงเรือนปลูกพืชในญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นโรงเรือนแบบควบคุมสภาพแวดล้อมและโรงเรือนแบบง่ายที่เป็นโครงเหล็กโค้งคลุมด้วยพลาสติก สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างเกี่ยวกับการเกษตรของญี่ปุ่น และอยากให้เกิดขึ้นในประเทศไทย คือ JA สหกรณ์การเกษตรของญี่ปุ่น อยากให้ประเทศไทยนำระบบการทำงานของ JA ไปปรับใช้ในภาคการเกษตรของไทย เพราะ JA ไม่เพียงแต่กำหนดราคาสินค้า หรือให้บริการด้านเงิน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การให้ความรู้และฝึกอบรม แก่เกษตรกรในการทำเกษตรและยังติดตามให้คำปรึกษา เป็นตัวกลางในการซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบทางการเกษตรและรวบรวมผลผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสมาชิกสหกรณ์ ถ้าประเทศไทยสามรถนำความรู้เรื่องระบบการทำงานของ JA ไปปรับใช้ได้เราก็สามารถแก้ปัญหาราคา ผลผลิตทางเกษตรล่นตลาด และ ราคาต่ำ

ในฐานะที่หนูเป็นลูกเกษตร ลูกองค์พ่อพระพิรุณ หนูยึดมั้นและตั้งใจศึกษาการเกษตรของญี่ปุ่น เพื่อนำไปพัฒนาบ้านเกิดและประเทศชาติ ดังคติพจน์ อกท. ที่ว่า

“เราเรียนรู้ด้วยงานการฝึกหัด
เราปฎิบัติเพื่อหวังทางศึกษา
หาเลี้ยงชีพเพื่อชีวิตพัฒนา
ใช้วิชาเพื่อบริการงานสังคม”